ไวรัสโคโรน่ากันอีกสักหน่อย : คงไม่เกินเลย
…
นั่งกินข้าวกินไวน์ดูข่าวหลังสองทุ่ม เป็นรายการคุยข่าว นำข่าวประจำวันมาพูดคุย มีพิธีกรสามคน สลับกันแสดงความเห็นจากข่าวที่นำมาเสนอ ดูได้เอาสนุก ถือว่าเป็นเวลาพักผ่อนของเรา เห็นด้วยไม่เห็นด้วย ก็นึกโต้ตอบอยู่ในใจ ไม่เคยนำมาเขียนเพราะหน้าที่ของเราคือ ผู้ดู ไม่ก้าวก่ายอะไรกับเขา อาชีพของเขา
…
บางครั้งได้ยินเขาใช้สรรพนามพูดถึงคนในข่าว โดยเรียกว่า “มัน” บางหนได้ยินเขาบรรยายข่าว โดยใช้สรรพนามแทนว่า “กู” “มึง” บางทีได้ยินคำว่า “แม่-ง” ออกมาด้วย นั่งฟังเขาคุยข่าว ด้วยความสนุก ว่าเออหนอ พิธีกรผู้มีเกียรตินี้ หรือที่เราเรียกกันว่านักสื่อสารมวลชน เดี๋ยวนี้เป็นกันเองกับผมมากขึ้น ยิ่งฟังแล้วยิ่งสนุก เหมือนมีเพื่อนมาร่วมดื่มเหล้ากินไวน์ด้วยกัน เพียงแต่เขาอยู่ในทีวีเท่านั้นเอง จะเป็นเรื่องสมควรหรือไม่สมควรที่เขา “ใช้คำ” ในชุดเช่นนี้ ผมคงไม่ก้าวล่วง
…
คืนนี้ มีข่าวไวรัสโคโรน่า ก็ตามประสาคนเมาคุยกัน ผมก็หัวเราะเอิ้กอ๊ากไป ตอนที่ฟังเขาคุยข่าว แต่ข่าวสุดท้ายเรื่องไวรัสโคโรน่าตอนจบ ก่อนเข้าเบรคโฆษณา ผมว่าผมไม่ค่อยขำ
…
ผู้ประกาศข่าว อ่านข่าวว่า ตอนนี้มีข่าวดี มีบริษัทประกันภัย (มีแอดฯเอ่ยชื่อบริษัทฯ) ว่าตอนนี้บริษัทฯมีบริการรับประกันคนที่กลัวจะติดเชื้อไวรัสชนิดนี้แล้ว จ่ายเบี้ยประกัน คุ้มกันหนึ่งปี ผู้ประกาศ ประกาศสถานที่ติดต่อ ในช่องทางหลายช่องทางให้บริษัทรับประกันแห่งนี้ ชัดถ้อยชัดคำในขณะอ่านข่าว
…
เฮ้อ ก็นะ ไม่รู้หรอกว่า โดยจรรยาบรรณแล้วเขาจะทำได้ไหม หรือในสามัญสำนึกเขาควรจะทำไหม เพราะเป็นช่วงอ่านข่าว ไม่ใช่ช่วงโฆษณา
…
ไม่มีอะไรมาก อิ่มข้าวแล้ว มึนหัวแล้ว สักพักก็คงเข้านอน แต่กลัวว่าพรุ่งนี้จะลืมเรื่องที่คิดตอนดูข่าวคืนนี้ จึงเขียนบันทึกไว้ พรุ่งนี้จะได้มาตรวจสอบอีกทีว่า สิ่งที่เราคิดไว้คืนนี้ถูกหรือเปล่า หรือว่าเราเมาแล้ว เราจึงคิดแบบนี้ไปเองคนเดียว ตอนเช้าจะได้ลบทิ้ง…
ชาติ กอบจิตติ